ภาษาไทย กับ วัยรุ่น
ปัญหาการใช้ภาษาไทยของวัยรุ่น
วัยรุ่นไทยสมัยนี้นิยมใช้โซเชียลเน็ตเวิร์คเพื่อการติดต่อที่รวดเร็วและเนื่องจากความเร็วในการสื่อสารและความยากลำบากในการพิมพ์ตัวอักษรทำให้วัยรุ่นทำให้คำเหล่านั้นสั้นลงจนกลายเป็นภาษาวิบัติ
ภาษาวิบัติ เป็นคำเรียกของการใช้ภาษาไทยที่เปลี่ยนแปลงไป และไม่ตรงกับกับหลักภาษาในด้านการสะกดคำคำว่า 'ภาษาวิบัติ' ใช้เรียกรวมถึงการเขียนที่สะกดผิดบ่อย รวมถึงการใช้คำศัพท์ใหม่หรือคำศัพท์ที่สะกดแปลกไปจากเดิม คำว่า 'วิบัติ' มาจากภาษาบาลี หมายถึง พินาศฉิบหาย หรือความเคลื่อนทำให้เสียหาย
ในประเทศไทย มีการวิพากษ์วิจารณ์ถึงปัญหาเด็กไทยขาดการศึกษารวมถึงปัญหาภาษาวิบัติทำให้ เด็กไทย ไม่สามารถใช้ภาษาไทยได้มีประสิทธิภาพเท่าที่ควร ในขณะเดียวกันได้มีการใช้คำว่าภาษาอุบัติแทนที่ภาษาวิบัติที่มีความหมายในเชิงลบ โดยภาษาอุบัติหมายถึงภาษาที่เกิดขึ้นมาใหม่ ตอบสนองวัฒนธรรมย่อย เช่นเดียวกับภาษาเฉพาะวงการที่เป็นศัพท์สแลง
ทั้งนี้ การเปิดใช้พจนานุกรมเพื่อค้นหาคำที่ควรใช้ให้ถูกต้องอาจเป็นทางเลือกที่ดี[ต้องการอ้างอิง] ทางบัณฑิตยสถานได้กำหนดคำที่ใช้อย่างเป็นทางการหรืออยู่ในรูปแบบมาตรฐาน หากใช้ผิดอาจกลายเป็นคำวิบัติได้[ต้องการอ้างอิง] ซึ่งคำวิบัติไม่ใช่การเปลี่ยนแปลงของภาษาแต่อย่างใด[ต้องการอ้างอิง] เป็นเพียงการใช้ภาษาให้แตกต่างจากปกติในช่วงระยะเวลาหนึ่ง หรืออาจใช้จากรุ่นสู่รุ่นไปจนกว่าคำวิบัตินั้นจะหายไปจากสังคมนั้น ๆ
นิธิ เอียวศรีวงศ์ ว่า ภาษาวิบัติเป็นการเปลี่ยนแปลงของภาษาที่ผู้ใหญ่ในสังคมไม่ชอบ แม้ภาษาจะมีการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ แต่ผู้ใหญ่ไม่ชอบให้ภาษาเปลี่ยน การให้เหตุผลว่าภาษาไทยไม่ควรเปลี่ยนแปลง เพราะเป็นภาษาของชาติที่มีความศักดิ์สิทธิ์ นิธิเห็นว่าเป็นเหตุผลแบบไสยศาสตร์ ไม่ค่อยน่าฟัง นิธิยังเห็นว่า ปัญหาของภาษาไทยในปัจจุบันคือ การใช้ภาษาไม่มีประสิทธิภาพ เช่น ไวยากรณ์ การใช้ศัพท์หรือการเรียบเรียง เป็นต้น และการไม่ศึกษาภาษาที่เปลี่ยนแปลงไปนี้เองที่จะเป็นเหตุให้เกิด 'ภาษาวิบัติ'
เดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2553 ช่วงที่มีผู้สร้างภาพยนตร์ไปตั้งเป็นชื่อ หอแต๋วแตกแหวกชิมิ กาญจนา นาคสกุล ราชบัณฑิตประเภทวรรณศิลป์ สาขาวิชาภาษาไทย ระบุ คำว่า 'ชิมิ' หากเป็นการใช้ภายในกลุ่มก็ไม่มีปัญหาอะไร เพราะเป็นการล้อกันเล่นซึ่งเป็นปกติของภาษา และจะเลือนหายไปตามกาลเวลา แต่การนำไม่ใช้เชิงสาธารณะดังที่ไปตั้งเป็นชื่อภาพยนตร์ ถือว่าไม่เหมาะสมนัก เมื่อเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2554 กนกวลี ชูชัยยะ เลขาธิการราชบัณฑิตยสถาน กล่าวว่า สถานการณ์ภาษาไทยในปัจจุบันยังไม่ถึงขั้นวิกฤต และวัยรุ่นใช้ภาษาแช็ตเฉพาะบนอินเทอร์เน็ต และสื่อสารภายในวัยรุ่นเท่านั้น ยังไม่พบนำมาใช้ในการเขียนหรือการทำงานแต่อย่างใด
ลักษณะและตัวอย่าง
คำสะกดผิดได้ง่าย เป็นรูปแบบของคำที่มีการสะกดผิด ซึ่งเกิดจากคำที่มีการผันอักษรและเสียงไม่ตรงกับรูปวรรณยุกต์
• สนุ๊กเกอร์ (สนุกเกอร์)
• โน๊ต (โน้ต)
คำที่สะกดผิดเพื่อให้แปลกตา
• หน่องเตย (ใบเตย อาร์ สยาม)
• นู๋ (หนู)
• ชะมะ,ชิมิ (ใช่ไหม)
• ช่ะ (ใช่ปะ, ใช่เปล่า, ใช่หรือเปล่า ตามลำดับ)
• มว๊ากกกก (มาก)
• ป่าว , ป่ะ, ปล่าว (เปล่า)
• คัย,ไค,ครัย (ใคร)
• เตง,ตะเอง (ตัวเอง)
• เก๊า, เก๊าท์, (เขา)
• เทอ,เทอร์ (เธอ)
• ชั้ล , ช้าน (ฉัน)
• ค้ะ , คร๊ , คร้ะ , ค่า (ค่ะ)
• คร้าบ , คับ , คัฟ , คร๊าฟ (ครับ)
• บร๊ะ (พระ)
• เกรีeu (เกรียน)
• uou (นอน)
• Inw (เทพ)
• วาน (วัน)
• จิง (จริง)
• ll'll ''ll ll'll (กาก)
• กำ (กรรม)
คำที่สะกดผิดเพื่อแสดงอารมณ์
• เป็นอะไร → เปงราย, เปนรัย, เปงรัย
• ทำไม → ทามมาย, ทามมัย
• จังเลย → จังรุย, จังเยย, จุงเบย
• บอกตรง ๆ → บ่องตง
• นิดนึง → นิสนึง, นิสนุง
• คือแบบ → คีบับ, เคบับ
• น่ารำคาญ → น่ามคาน
• น่ารักอะ → น่าร๊อคอ้า
• จริง ๆ → จีจี,จิงๆ
• สุด ๆ → ฝุด ๆ
• ไม่รู้ → มะรุ
• อะไรหรือ → ไรเหรอ, ไรหรา, ไรเหลอ, ไรหรอ, อาไยหยอ
คำเลียนเสียง โดยส่วนใหญ่จะเพิ่มทัณฑฆาต หรือซ้ำตัวอักษร
• อ๊าย → แอร๊ยย, อร๊ายยย, อั้ยยะ
• กรี๊ด → กี๊สส
• โฮก → โฮกกก
• โอ้ → โอ้วส์
• มัน → มันส์
ภาษาเหล่านี้เป็นภาษาที่วัยรุ่นทำให้เปลี่ยนแปลงมาเรื่อยจนอาจจะทำให้ไม่มีเค้าโครงเดิมของภาษาไทยอีกต่อไป ฉะนั้นแล้ววัยรุ่นไทยควรช่วยกันถนอมและรักษาภาษาไทยเอาไว้ให้เหมือนอย่างที่มันเป็นมาตลอด
ที่มา : เว็บไซต์วิกิพีเดีย
ภาพประกอบจากอินเทอร์เน็ต