ร็อตไวเลอร์

ร็อตไวเลอร์


เจาะตำนาน ประวัติ ร็อตไวเลอร์

          ร็อตไวเลอร์ ข้อมูลเกี่ยวกับสุนัขพันธุ์นี้เท่าที่เราค้นคว้ามาได้นั้น ทรหดอดทนไม่ย้อท้อ ใจเย็น และมีสมรรถนะสูง นี่คือสัญลักษณ์ของ สุนัขพันธุ์ร็อตไวเลอร์ ซึ่งเป็นสุนัขที่ในอดีตชาวโรมันใช้ต้อนวัวข้ามเขาแอลป์ เข้าไปยุโรปตอนกลาง

          ร็อตไวเลอร์มีตำนานเล่าว่า เป็นชื่อที่มันได้มาในย่านตลาดอันคึกคักในเมืองเวิร์ธเทมเบิร์ก พวกพ่อขายปศุสัตว์ที่ออกไปซื้อวัวตามบ้านนอกก็มีวิธีหลบโจร โดยเอากระเป๋าเงินผูกไว้กับคออันล่ำสันของมันและตอนฝูงวัวที่ซื้อมาได้กลับมาตลาด พวกพ่อค้าเหล่านั้นเอาหมาที่ล่ำสันผูกไว้กับขบวนเกวียนแล้วก็ให้มันทำหน้าที่ยามไปด้วย เรียกว่าให้หมาเอาเงินไปซื้อ ให้หมาต้อนวัวมา แล้วก็ให้หมาช่วยเฝ้า เป็นงานเหมาของหมาไปเลย

          ร็อตไวเลอร์มีต้นกำเนิดตั้งแต่ในยุคโรมัน ซึ่งมีการทำสงครามเพื่อขยายอาณาจักร การทำสงครามสมัยโบราณต้องมีกองเสบียงซึ่งต้องมีฝูงวัวควายเป็นๆ ที่ต้อนไปกับการเดินทัพ (เพราะว่าในสมัยนั้น ยังไม่มีการเก็บเนื้อสัตว์ในระบบแช่เย็น) และต้องมีการใช้สุนัขที่แข็งแรงในการควบคุมฝูงสัตว์ที่เป็นเสบียงเหล่านี้ สุนัขเหล่านี้จะแข็งแรง อดทนมาก เพราะว่าต้องเดินทางไกลข้ามทุ่งข้ามแม่น้ำ ข้ามเขา ต้องผจญกับสัตว์ป่าและคนร้ายที่จะมาปล้นฝูงสัตว์เสบียงเหล่านี้

          สุนัขเหล่านี้บางส่วนจะตกค้างอยู่แคว้น Rottweiler (ซึ่งปัจจุบันเป็นเมืองหนึ่งของประเทศเยอรมันตะวันตก) และต่อมาได้ได้ถูกนำไปใช้งานโดยพ่อค้าเนื้อสัตว์ที่ต้อนฝูงวัวควาย ไปขายยังต่างเมืองโดยวิธีการเอากระเป๋าที่เก็บเงินผูกไว้ที่คออันแข็งแรงของสุนัข เพื่อป้องกันโจรที่มาปล้นชิง สุนัขดังกล่าวมานี้ถือเป็นบรรพบุรุษของสุนัขพันธุ์ร็อตไวเลอร์ในปัจจุบัน

          สัญชาตญาณอันแรงกล้าใการเฝ้าของมันก็ดี ตลอดจนนิสัยใจเย็นไม่ขี้ตื่นของมันก็ดีเหล่านี้ ทำให้มันเหมาะอย่างยิ่งกับงานด้านทหารและตำรวจ คุณสมบัติอย่างเดียวกันนี้เองรวมกับความจงรักภักดีอย่างยิ่งกับนายทำให้สุนัขพันธุ์นี้เป็นสุนัขเฝ้าและ เพื่อนอันประเสริฐ

          ร็อตไวเลอร์ไปแพร่กระจ่ายได้รับความนิยมในประเทศอังกฤษและสก็อตแลนด์ในช่วงปี 1936 และได้รับการรับรองพันธุ์จาก AMERICAN KENNEL CLUB ในปี 1935 เป็นพันธุ์ที่ 47 โดยระบุจัดอยู่ในประเภท WORKING DOG และ KENNEL CLUB ของอังกฤษก็จัดอยู่ใน WORKING DOG เหมือนกันจะแตกต่างเพียงเล็กน้อยก็เฉพาะของ FCI ที่กำหนดให้เป็นประเภท GUARD DOG

          สุนัขพันธุ์ร็อตไวเลอร์ได้เริ่มต้นพัฒนาอย่างจริงจังตั้งแต่ราวปี ค.ศ. 1907-1910 ในประเทศเยอรมันจากแนวความคิดที่ต้องการสุนัขใช้งาน (Working Dog) ซึ่งมีการพัฒนาไปพร้อมๆ กับสุนัขพันธุ์เยอรมันเชดเพอดและโดเบอร์แมนจนถึงถึงปี 1920 มีการจัดตั้งสมาพันธุ์ร๊อตไวเลอร์ ขึ้นในประเทศเยอรมันตะวันตก (Allgemeiner Deutsher Rottweiler Klub หรือ ADRK) ซึ่งเป็นสถาบันที่สร้างมาตราฐานอย่างจริงจัง ในการที่จะทำให้เกิดการพัฒนาสายพันธุ์ ของสุนัขร็อตไวเลอร์ที่ถูกต้องและมีคุณภาพ โดยเน้นการพัฒนาทั้งทางด้านร่างกาย และจิตใจ และการอยู่รวมกับคนในสังคม โดยกำหนดเป็นกฏเกณฑ์การปฏิบัติที่ทั้งผู้เพาะพันธุ์และผู้เป็นเจ้าของสุนัขจะต้องทำตาม เพื่อให้คงลักษณะมาตราฐานสายพันธุ์ของร็อตไวเลอร์เอาไว้อย่างมีคุณภาพ มิใช่เป็นเพียงการพัฒนาที่คงไว้ซึ่งรูปลักษณ์ภายนอกเท่านั้น

          สำหรับเรื่องราวที่ชาวเยอรมันตอนเหนือ ได้หันมาเพาะอย่างจริงจังในศตวรรษที่ 19 ก็เพราะประทับใจ ตำนานที่พวกเขาจะไม่มีวันลืมนั่นคือในคืนวันหนึ่งขณะที่ตำรวจเยอรมันพร้อมสุนัขคู่ใจออกตรวจพื้นที่บนถนน มีกะลาสีเรือ 14 คน กำลังเมาได้ที่ ในร้านเหล้าริมแม่น้ำในเมืองฮัมบูรัก พวกเขาทะเลาะเรื่องหญิงสาว ตำรวจเห็นเหตุการณ์พอดี จึงเข้าไปรักษาความสงบ แต่กะลาสีทั้ง 14 คนเขม่นกรูเข้ามาทำร้ายตำรวจปรากฏว่า เจ้าร็อตไวเลอร์กระโดด เข้าใส่ขี้เมาทั้งหลายจนต้องโกยอ้าวไปตามกัน

          ร็อตไวเลอร์เหมาะสำหรับครอบครัวที่ชอบท่องเที่ยว ไม่เหมาะกับคนที่ชอบอยู่แต่ในบ้าน หรือคนที่มีสุขภาพอ่อนแอ ชอบที่อาศัยที่มีบริเวรกว้างใหญ่ มีลานหรือสวนพอให้สุนัขวิ่งเล่น กระโดดได้อย่างอิสระเสรีจะดีที่สุดหางมีที่ให้วิ่งโดยเฉพาะอย่างยิ่งวิ่งแข่ง การดูแลรักษาความสะอาดสำหรับร็อตไวเลอร์ไม่ยุ่งยากเหมือนสุนัขพันธุ์ขนอื่น และก็ใช้เวลาไม่มากนัก สุนัขสายพันธุ์ชั้นดีต้องออกกำลังกายมากและสม่ำเสมอ หรือไม่ก็มีอะไรทำอยู่ตลอดเวลาอย่างเช่นให้เฝ้าสัตว์เป็นสุนัขที่ไม่ชอบอยู่นิ่งเฉย หากไม่มีอะไรทำอย่างน้อยก็ควรพาออกไปเดินเล่น และควรทำให้เป็นกิจวัตรประจำวัน

          ร็อตไวเลอร์เป็นสุนัขชั้นเลิศที่เชื่อฟังคำสั่งง่าย สงบ ใจเย็น และชอบเด็กและหากได้รับการฝึกฝนอย่างถูกวิธี ก็จะทำให้เป็นสุนัขเฝ้าบ้าน เฝ้ายามหรือสุนัขจู่โจมได้เป็นอย่างดี ร็อตไวเลอร์เรียนรู้ได้เร็วสามารถใช้งานได้ราวกับหุ่นยนต์ เป็นสุนัขที่ไม่ชอบเห่าไร้สาระ ชอบวิ่งเล่น ร็อตไวเลอร์จะกัดก็ต่อเมื่อเจ้านายของมัน ได้รับอันตรายจากฝ่ายตรงข้ามเท่านั้น


ร็อตไวเลอร์

[ดูภาพทั้งหมดในหมวด]

หัวข้อ
มาตรฐานพันธุ์ร็อตไวเลอร์


ลักษณะทั่วไป : ร็อตไวเลอร์จัดได้ว่าเป็นสุนัขที่มีโครงสร้างใหญ่และแข็งแรง โดยเฉพาะโครงสร้างของกระดูกค่อนข้างใหญ่ กระโหลกศรีษะใหญ่และกว้างรูปร่างบึกบึน หนา กล้ามเนื้อเป็นมัดๆ ลำคอและลำตัวมีลักษณะค่อนข้างกลมทำให้แลดูป้อม ขาทั้งสี่มีขนาดใหญ่เมื่อเทียบกับสุนัขพันธุ์อื่นๆ ที่มีขนาดไล่เลี่ยกัน ใบหูห้อยปรกลง ลักษณะของใบหูคล้ายรูปสามเหลี่ยม สีของลำตัวมีเพียงสีเดียวคือสีดำสลับน้ำตาลเข้ม

โครงสร้าง : ส่วนสูงที่ถือเป็นเกณฑ์มาตราฐานสำหรับสุนัขพันธุ์นี้ คือ เพศผู้ความสูงควรอยู่ในช่วงระหว่าง 24-27 นิ้ว ส่วนเพศเมียความสูง ควรอยู่ในช่วงระหว่าง 22-25 นิ้ว แต่ทั้งนี้ต้องคำนึงถึงสัดส่วนความยาวของลำตัวด้วย สุนัขที่มีโครงสร้างสวยงาม ควรมีรูปทรงเป็นรูปสี่เหลี่ยมจตุรัส และดูกระชับลำตัวไม่ยาวจนเกินไปขณะเดียวกันความสูงก็ไม่เกินกว่าความยาวของลำตัวมากนัก เพราะจะทำให้สุนัขแลดูเก้งก้างขาดความแข้งแกร่ง ขาและส่วนหัวต้องมีขนาดเหมาะสมกับลำตัวเวลาเดินหรือวิ่ง ดูแล้วรู้สึกว่าอวัยวะทุกส่วนมีการเคลื่อนไหวมีความยืดหยุ่นและนิ่มนวลแลดูทมัดทะแมง สุนัขที่สูงเกิดไปหรือเตี้ยเกินไปจะทำให้แลดูขาดความสง่างาม สำหรับน้ำหนักโดยเฉลี่ยควรอยู่ในช่วง 90-110 ปอนด์

หัว : มีขนาดปานกลาง กะโหลกศีรษะกว้างและโค้งได้รูป ฐานหูทั้งสองอยู่ห่างกัน ส่วนหลังของกะโหลกศรีษะโหนกยื่นออกมาเล็กน้อย สันจมูกต้องไม่ยาวนัก ความยาวของจมูกต้องไม่ยาวเกินกว่าความยาวของกะโหลกส่วนหน้าและส่วนท้าย

จมูก : จมูกชิ้นเล็กน้อยไม่แห้ง หรือแฉะจนเกินไป เส้นจมูกควรเรียบแต่ไม่จำเป็นต้องเส้นตรงทีเดียวเหมือนกับสุนัขพันธุ์โดเบอร์แมน อาจย่นได้เล็กน้อย แต่ต้องไม่ย่นถึงขนาดสุนัขพันธุ์บ็อกเซอร์ จมูกต้องมีสีดำสนิทเหนียงจมูกไม่ควรยื่นออกมามากจนเกินไป รูปทรงของจมูกโค้งมนเล็กน้อยแต่ไม่ถึงกลับกลม

ปาก : ริมฝีปากต้องมีสีดำสนิท หากมีสีชมพูแซมถือว่าใช้ไม่ได้ เวลปิดปากต้องปิดได้สนิทชนิดมองไม่เห็นฝันสีขาวสะอาดโผล่แลบออกมา

ฟัน : อยู่ครบ 42 ซี่ ฟันบน 20 ซี่ ฟันล่าง 22 ซี่ ฟันต้องขาวสะอาดแข็งแรง ฟันเวลาขบกันมีลักษณะคล้ายกรรไกร คือ ขบกันได้สนิท โดยฟันหน้าชุดบนอยู่ด้านนอกและชุดล่างอยู่ด้านใน สุนัขที่มีฟันขบกันไม่สนิทถือว่าใช้ไม่ได้ หรือสุนัขที่มีฟันล่างเกยอยู่ด้านนอกแทนที่จะเป็น ฟันชุดบนถือว่าใช่ไม่ได้อีกเช่น

ตา : มีขนาดปานกลาง ตาไม่ยื่นเป็นโปนออกมา รูปทรงของดวงตาควรมีลักษณะคล้ายผลอัลมอนด์ เวลาหลับตาหนังตาต้องปิดดวงตาไว้มิดชิดตาควรมีสีดำหรือสีน้ำตาลเข้ม ตาหยิ่งดำหยิ่งดี สุนัขที่มีดวงตาสีน้ำตาลอ่อนหรือสีฟ้า (สุนัขตาบอด) ถือว่าใช้ไม่ได หรือสุนัขที่มีตาทั้งสองข้างไม่เท่ากันก็ใช้ไม่ได้อีกเช่นกัน

หู : หูต้องปรกและแนบติดกลับตัว ใบหูของร็อตไวเลอร์จะต้องมีขนาดเล็ก รูปทรงเป็นรูปสามเหลี่ยมหน้าจั่ว ฐานหูทั้งสองข้างจะต้องตั้งอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม และอยู่ในระดับสูงเสมอกัน ปลายหูทั้งสอข้างจะต้องห้อยปรกลงมาที่ระดับต้นคอ

คอ : ลำคอมีลักษณะกว้างใหญ่และดูค่อยข้างกลม แข็งแรง กลมกลืนกับลำตัว

ลำตัว : ค่อนข้างกลม บริเวณท้องน้อยคอดเพียงเล็กน้อยแนวแผ่นหลังเป้นเส้นตรง เวลาเดินหรือวิ่งเส้นหลังต้องได้แนวระดับเสมอกัน ลำตัวมีความยืนหยุ่นแต่แข็งแรง และเต็มไปด้วยกล้ามเนื้อ สุนัขที่มองเห็นซี่โครงถือว่าใช้ไม่ได้

อก : อกกว้างลึก ความลึกของอกไม่ควรต่ำกว่าครึ่งหนึ่งของความสูงทั้งหมด โดยวัดจากพื้นถึงหัวไหล่ อกเต็มไปด้วยกล้ามเนื้อ เวลามองจากด้านล่างอกควรยื่นออกมาเล็กน้อยและอกควรโค้งได้

ตะโพก : โค้งมนได้รูปไม่ยาวหรือลาดจนเกินไป ตะโพกต้องไม่มีรอยกระดูกยื่นโปนขึ้นมา

หาง : ฐานหางตั้งอยู่ระดับเดียวกับตะโพก หางควรสั้นเสมอระดับตะโพก

ขา : กระดูกขาค่อนข้างใหญ่เต็มไปด้วยมัดกล้าม เวลายืนขาต้องไม่ถ่างออกจากกัน ท่อนขาทำมุมตั้งฉากกับพื้นและ ขาหน้าทั้งสองต้องขนานกัน ส่วนขาหลังจะต้องยาวกว่าขาหน้า เวลายืนขาจะย่อยื่นไปข้างหลังเล็กน้อยลักษณะคล้ายสุนัขยืนย่อเข่า เวลามองจากด้านหลังขาทั้งคู่จะต้องขนานกัน สุนัขที่มีข้อศอกขาหลังอยู่ชิดกันถือว่าใช้ไม่ได้ และอาจสันนิฐานได้ว่าสุนัขเป็นโรคฮิป เวลาเดินหรือวิ่งขาต้องไม่ปัด

อุ้งเท้า : อุ้งเท้าควรมีลักษณะกลมเวลายืนนิ้วเท้าต้องไม่กางแผ่ออก เล็บเท้าและอุ้งเท้ามีสีดำ

ขน : ลักษณะขนค่อนข้างสั้นและเส้นขนหยาบ ขนแนบชิดกับลำตัว ขนต้องขึ้นดก ขนของร็อตไวเลอร์มี 2 ชั้น ขนด้านในสั้นและต้องไม่ยาวโผล่ออกมาด้านนอก ขนบริเรณแผ่นหลังและขาด้านหลังรวมทั้งบั้นท้ายโดยมากจะยาวกว่าส่วนอื่นๆของร่างกายสำหรับลักษณะขนของร็อตไวเลอร์มีอยู่ 2 ชนิด คืน พันธุ์ขนยาว และขนสั้นตามที่กล่าวมาแล้วข้างต้น ดังนั้นปัญหาเรื่องขนจึงไม่ค่อยมีมากนัก ยกเว้นกรณีที่สุนัขมีขนยาวหรือสั้นจนดูผิดปกติก็ถือว่าใช้ไม่ได้ และขนที่มีลักษณะเป็นลูกคลื่นหรือเป็นลอนมากๆ ก็ถือว่าเป็นลักษณะที่ไม่ดีเช่นกัน ขนที่ดีต้องมีลักษณะเป็นมันแวว

สี : ร็อตไวเลอร์จะต้องมีลำตัวเป็นสีดำสนิท และมีมาร์คกิ้งในตำแหน่งที่ถูกต้องตรงตามสายพันธุ์ สุนัขที่มีขนสีขาวขึ้นแซมไม่ว่าในส่วนไหนวของร่างกาย ก็ถือว่าใช้ไม่ได้ สำหรับพื้นที่สีน้ำตาลของมาร์คกิ้ง เมื่อรวมกันแล้วจะต้องไม่เกิน 10 เปอร์เซ็น ของสีทั้งหมดบนลำตัว สุนัขพันธุ์ร็อตไวเลอร์ที่มีสีนอกเหนือจากนี้ถือว่าใช้ไม่ได้

การเดินการวิ่ง
   
จะต้องสง่าผ่าเผย มีความยืดหยุ่นในตัว การย่างก้าวต้องดูมั่นคง ขาต้องไม่เกหรือปัด สุนัขที่ดีเวลาวิ่งขาทั้งสี่ต้องประสานกันอย่างเหมาะสม โดยขาคู่หน้าจะต้องยกขึ้นพร้อมๆ กันกับขณะที่ขาคู่หลังยังแตะพื้นทั้งสองข้าง ขณะเดียวกันขาคู่หลังก็จะยกพ้นพื้น พร้อมๆ กัน ซึ่งขาทั้งสี่จะมาแตะพื้นพร้อมกันที่แนวกึ่งกลางของลำตัว

การจัดอันดับ
   
ร็อตไวเลอร์ได้รับรองพันธุ์ จาก American Kennel Club ในปี ค.ศ.1935 เป็นพันธุ์ที่ 47 โดยระบุให้จัดอยู่ในประเภท Working Dog และ Kennel Club ของอังกฤษก็จัดอยู่ใน Working Dog เหมือนกันจะแตกต่างเพียงเล็กน้อยก็เฉพาะของ F.C.I. ที่กำหนดให้เป็นประเภท Gccard Dog สำหรับมาตรฐานพันธุ์ที่ยอมรับและใช้กันทั่วโลกก็มีทั้ง A.K.C. ,F.C.I. และสมาคมร็อตไวเลอร์เยอรมัน หรือ A.D.R.K.

ข้อมูลจาก : http://www.geocities.com/morethan_dogs/


0


moo_dang

: ผู้ใช้ลงทะเบียน
ไม่ระบุ